ปัจจุบันข่าวบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการสูบพอตไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้าผิดที่ทาง ความอันตรายจากควันมือสอง หรือข้อโต้แย้งกันมานานมากว่า การที่เราสูบพอตนั้นอันตรายมากกว่าหรือน้อยกว่าบุหรี่มวน นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า กับ นิโคตินในบุหรี่มวน อันไหนส่งผลร้ายแรงมากกว่ากัน แล้วถ้าเราอยากเลิกสูบบุหรี่มวน เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นติดตามร่างกาย หรือเพราะไม่อยากสียบุคลิกภาพ วันนี้แอดจะมาอธิบายให้เข้าใจอย่างคร่าวๆ เพื่อการตัดสินใจ หรือ ทำความเข้าใจให้มากกว่าเดิม
บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายจริงไหม
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้กลไกไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำที่ประกอบไปด้วยสารเคมีต่าง ๆ โดยไม่มีควันจากกระบวนการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ปกติทั่วไป ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน คือ แบตเตอรี่ ตัวทำให้เกิดไอและความร้อน (Atomizer) และน้ำยา ถ้ากล่าวถึงเฉพาะส่วนของน้ำยาที่จะถูกทำให้เป็นไอและเข้าสู่ร่างกายของผู้สูบจะประกอบด้วยสารประกอบหลัก ๆ คือ
- นิโคติน
เป็นสารที่ทำให้ร่างกายเสพติดการสูบบุหรี่ ดังนั้นบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ อีกทั้งยังทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น
- โพรไพลีนไกลคอล
และกลีเซอรีน หากสูดดมอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองปอดได้ และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดหอบหืด
- สารประกอบอื่น ๆ
สารแต่งกลิ่นและรส โทลูอึน เบนซีน นิกเกิล โคบอลต์ โครเมียม ตะกั่ว
บุหรี่ไฟฟ้าจึงมีอันตรายไม่ต่างจากบุหรี่ธรรมดา
แม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเพียงพอว่าบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้เกิดมะเร็งปอด แต่มีหลักฐานยืนยันว่าเพิ่มความเสี่ยง ในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและโรคปอดอักเสบเฉียบพลัน
สสส. และภาคีเครือข่ายเล็งเห็นถึงอันตรายต่อสุขภาพรูปแบบใหม่อย่าง บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น ด้วยรูปแบบที่ดูทันสมัย พร้อมรสชาติ กลิ่น ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นที่ดึงดูดใจ จนเสี่ยงเกิดนักสูบหน้าใหม่ จากการทดลองเป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์ พบว่าหนูที่ได้รับควันบุหรี่ไฟฟ้าจะหาอาหารได้ช้าสุด เนื่องจากเซลล์สมองของหนูที่ได้รับควันบุหรี่ไฟฟ้าจะหาอาหารได้ช้าที่สุด เนื่องจากเซลล์สมองของหนูที่ได้รับควันบุหรี่ไฟฟ้านั้นเกิดอาการอักเสบจากนิโคติน จนหดตัวลง เกิดช่องว่างทำให้เซลล์สมองไม่เชื่อมต่อกัน ส่งผลต่อพฤติกรรมของหนู โดยจะทำให้เกิดอาการเบลอจากที่เคยทำได้เป็นประจำ กลับทำได้ช้าลงกว่าที่เคย
สสส.จึงได้นำผลการทดลองนี้มาถ่ายทอดเพื่อนำเสนอข้อมูลในอีกด้านหนึ่ง เรื่องผลกระทบของสมองหลังจากที่ได้รับจากนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านการทำ Animation 3D ที่น่ารักและเข้าใจง่าย เป็นเรื่องราวของแฟนกัน 2 ตัว ซึ่งซันนี่เป็นหนูที่ทำงานในห้องทดลองที่ได้ควันบุหรี่ไฟฟ้าทุกวัน เมื่อกลับมาถึงบ้านก็มีอาการที่ ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่ไฟฟ้า จนเดิดเรื่องกับใบเฟิร์นซึ่งเป็นแฟนที่รออยู่ที่บ้าน
การรณรงค์บุหรี่ไฟฟ้าครั้งนี้ สสส. และภาคีเครือข่ายเลือกหยิบยกข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงจากการทดลอง วิจัย นำมาสื่อสารเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะวัยรุ่นได้รับข้อมูลครบทุกด้านก่อนตัดสินใจเป็นนักสูบหน้าใหม่
บุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคตินมากกว่าบุหรี่มวน 180 เท่า หมอแนะอย่าลอง
หมอระบุธุรกิจยาสูบพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสูบไฮบริด หากำไรบนความเสี่ยงด้านสุขภาพ ย้ำบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายกว่าบุหรี่มวน มีนิโคตินมากกว่า 180 เท่า ไม่ควรใช้เพื่อเลิอกบุหรี่เพราะจะทำให้ติดทั้งสองอย่าง ปัจจุบัน บุหรี่ไฟฟ้ากำลังแพร่ระบาด ด้วยมีความเชื่อว่ามีอันตรายน้อยกว่าสูบบุหรี่มวนและเป็นหนทางหนึ่งในการเลิกบุหรี่ แต่ในงาน การประชุมวิชาการ HA National Forum ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 13-16 มีนาคม 2561 ณ อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี ในวงสนทนาหัวข้อ Change 4 Health เปลี่ยนด้วยคุณภาพเพื่อสุขภาพเปี่ยมคุณธรรม รศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒน์ ได้ชี้แจงว่าความเชื่อข้างต้นเป็นเรื่องที่ผิด
รศ.นพ.สุทัศน์ กล่าวว่า บุหรี่แบบเดิมใช้ไฟแช็คจุดที่ปลายมวน บุหรี่ไฟฟ้าไม่ต้องพกไฟแช็ค แค่ชาร์จไฟ แล้วเกิดความร้อนไประเกิดน้ำยาที่อยู่ในอุปกรณ์ออกมาเป็นไอน้ำ แต่แบบไฮบริดหมายความว่าสามารถใช้บุหรี่แบบมวนได้ แต่ไม่ต้องซื้อไฟแช็ค แค่ซื้ออุปกรณ์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Heat not Burn Device แล้วเสียบปลั๊กชาร์จอุปกรณ์ แล้วเอามวนบุหรี่ธรรมดาเสียบเข้าไปในฐานของอุปกรณ์นี้ กดสวิชต์ สิ่งที่อุปกรณ์ทำคือจะใช้ความร้อนประมาณ 350 องศาเซลเซียสให้ความร้อนไปที่มวนบุหรี่จนเกิดไอควันแบบบุหรี่ไฟฟ้า โดยไม่จุดเผา ปกติถ้าจุดไฟจะเกิดความร้อนประมาณ 800 องศาเซลเซียสที่ปลายมวน แล้วดูดเอาควันที่มีความร้อนสูงเข้าไป
ย้อนกลับมาที่ประเด็นบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ได้ปลอดภัยดังที่ผู้ผลิตพยายามป้อนข้อมูลด้านเดียว โดย ยกตัวอย่างว่าในมวนบุหรี่มีปริมาณนิโคติน 1 มิลลิกรัม แต่น้ำยาที่ใช้เติมบุหรี่ไฟฟ้า 1 ซีซีมีปริมาณนิโคตินสูงถึง 180 มิลลิกรัม สูงกว่าบุหรี่มวนถึง 180 เท่า จึงตั้งคำถามว่า เมื่อเป็นแบบนี้การใช้บุหรี่ไฟฟ้าแล้วจะสามารถเลิกบุหรี่ได้หรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยพบว่านิโคตินเป็นสารที่ก่อให้เกิดการเสพติดสูงสุดมากกว่าเฮโรอีน ดังนั้น ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่โดยหันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้ามักลงเอยเป็น Dual User คือสูบทั้งสองอย่างและเลิกไม่ได้เลยสักอย่าง
สอดคล้องกับนายธามัน เต้พนธ์ อดีตสมาชิกวงดราก้อน ไฟว์ ที่เล่าประสบการณ์ใกล้ตัวว่า เพื่อนของตนที่หวังจะเลิกบุหรี่ด้วยการหันไปใช้บุหรี่ไฟฟ้า ปัจจุบัน 28 คนจาก 30 คนติดทั้งสองอย่าง ซึ่งตนมองว่าบุหรี่ไฟฟ้าน่ากลัว มันเริ่มจากการตลาด บอกว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัย ที่เห็นอยู่คือไอน้ำ ทั้งที่หน่วยงานทางการแพทย์ก็บอกแล้วว่า อะไรที่เผาแล้วมีควันก็มีพิษหมด สองคือมีกลิ่น มีการเติมสาร บางทีอาจมีการใส่แอมเฟตามีนลงไปเพื่อให้เกิดควสมรู้สึกหวือหวาในการสูบมากยิ่งขึ้น
บุหรี่ไฟฟ้าคือทางออกในการเลิกบุหรี่จริงหรือไม่
บุหรี่ไฟฟ้าทางออกของคนอยากเลิกบุหรี่จริงหรือ?
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นยาสูบชนิดใหม่ ที่ผู้สูบจะได้รับสารนิโคติน ที่ระเหยด้วยความร้อนจากไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกาย การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นวิธีการนำสารเสพติดนิโคตินเข้าสู่ร่างกายเช่นเดียวกับบุหรี่ แต่ไม่มีการเผาไหม้ใบยาสูบ นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า ได้มาจากการสกัดสารนิโคตินจากใบยาสูบ
บุหรี่ไฟฟ้าเสพติดเหมือนบุหรี่ธรรมดา สารที่ทำให้เกิดการเสพติดในบุหรี่ไฟฟ้าคือ สารนิโคตินเหลว ที่สกัดจากใบยาสูบ
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเป็นการเสพติดนิโคติน ซึ่งอำนาจการเสพติดสูงเทียบเท่าเฮโรอีน ซึ่งนิโคตินจะออกฤทธิ์กระตุ้นสมอง กระตุ้นหัวใจทำให้เส้นเลือดหดตัว ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ทางการแพทย์การเสพติดนิโคตินจัดเป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง
ปัจจุบันยัง ไม่มีหลักฐาน การศึกษาที่ชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้า ช่วยให้เลิกบุหรี่ง่ายขึ้น ตามที่ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้ากล่าวอ้าง แต่สิ่งที่ประเทศต่าง ๆ ยังห้ามบุหรี่ไฟฟ้า เพราะเห็นวัยรุ่นในอเมริกาที่ไม่เคยสูบบุหรี่ แต่ตอนนี้ติดบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเป็นปัญหาใหม่ที่ประเทศต่าง ๆ เฝ้าจับตาระวังอย่างใกล้ชิด และยังไม่เปิดให้มีการขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลไทยห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้ามาตั้งแต่ พ.ศ.2558 จึงสมควรห้ามต่อไป เพื่อป้องกันเยาวชนเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า
นิโคติน ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและในบุหรี่มวนมีหน้าที่ในการเป็นสารกระตุ้นและลดเครียดอ่อนๆ ซึงโดยทั่วไปแล้ว นิโคตินมักถูกมองในสายตาคนว่าเป็นสิ่งเสพติด จึงมีการคิดค้นน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบ 0 นิโคติน ขึ้นมา แต่ก็เป็นน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ค่อยนิยม เพราะคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่า 90% ต่างก็ต้องการสูบบหรี่ไฟฟ้าเพื่อรบสารนิโคตินทั้งสิ้น ซึ่งในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ขายทั่วไปมักจะมีปริมาณของนิโคตินที่แตกต่างกันออกไป และการเลือกความเข้มข้นของนิโคตินก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักและควรให้ความใส่ใจมากๆ สำหรัยนักสูบมือใหม่ เพราะหากเลือกน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้มเกินไปก็อาจจะมีอาการไอได้ แต่หากความเข้มข้นน้อยไปก็จะไม่ได้อรรถรสในการสูบอีก
โดยทั่วไปแล้วน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะมี นิโคติน เริ่มต้นที่ 0 มิลลิกรัมไปจนถึงสูงสุดที่ 50 มิลลิกรัมซึ่งไม่สามารถเกินไปได้มากกว่านี้ และคุณอาจจะสับสนได้เวลาที่เลือกใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเพราะไม่รู้ว่าความเข้มข้นของนิโคตินควรอยู่ที่ประมาณไหนและระหว่างน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบ Saltnic และ Freebase ควรใช้ยังไงให้ถูกต้อง
ข้อสรุป
การที่เราจะสบบุหรี่ไฟฟ้า เราก็คงอยากจะทราบกันว่า นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า เป็นยังไง มีกี่ระดับความเข้มข้น ในบทความนี้จะมาสรุปให้อ่านกันแบบย่อๆครับ ปริมาณนิโคตินเหมาะกับตัวเองคืออะไร? หากคุณคือนักสูบที่เป็นมือใหม่ มีสองปัจจัยหลักที่จะใช้สำหรับการพิจารณาเพื่อเลือกความเข้มข้นของนิโคติน นั่นก็คือ นิสัยในการสบ และ ชนิดของอุปกรณ์ในการสูบที่คุณใช้ โดยเราจะขออณุญาติจัด Rank เพื่อง่ายต่อการจำแนก นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า โดยวัดจากความถี่ในการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าของคุณ
- Rank 1 สูบบุหรี่เพื่อเข้าสังคมหรือสูบบุหรี่สองถึงสามมวนต่อวัน คุณเป็นคนที่สูบบุหรี่ไม่จัดมาก
- Rank 2 สูบบุหรี่ 10-20 มวนต่อวัน คุณเป็นคนที่สูบบุหรี่ที่อยู่กลางๆ
- Rank 3 สูบมากกว่า 1 ซอง คณคือคนที่สูบบุหรี่จัด
แต่ Rank ส่วนนี้อาจใช้ไม่ได้กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพราะบุหรี่ไฟฟ้าจะมีความเข้มที่แตกต่างจากบุหรี่มวน ซึ่งหากคุณพบว่าคุณชอบการสูบแบบเข้ม ๆ หรือนุ่ม ๆ มากกว่ากันคุณก็สามารถลองได้ในการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้านี่เลย และจงจำเอาไว้ว่าควันจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่เป็นอันตรายเมื่อเทียบกับควันจากบุหรี่มวน และยิ่งนิโคตินสูงมากขึ้นเท่าไหร่ก็จะช่วยในเรื่องของการลาขาดจากบุหรี่จริงได้ง่ายขึ้นเท่านั้น และต่อไปนี้คือปริมาณของนิโคตินที่เราจะแนะนำว่าแต่ละ Rank ควรใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้านิโคตินความเข้มเท่าไหร่จึงถือว่ากำลังดี