การเลิก พอตบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไม่เพียงแค่เป็นการตัดสินใจที่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังมีผลกระทบที่คุณต้องเผชิญหน้ากับอาการขาดนิโคตินต่างๆ ที่อาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายเลยก็ได้ จากวิตกกังวลไปจนถึงความกระสับกระส่าย บทความนี้จะทำให้คุณทราบถึงทุกด้านของอาการหลังเลิกพอตบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมกับทุกสถานการณ์
ผลกระทบต่อการเลิกสูบบุหรี่พอตไฟฟ้าแบบหักดิบ
เป็นที่ทราบกันดีว่าการเลิกบุหรี่ไฟฟ้าไม่เพียงแค่เป็นการตัดสินใจที่ดีต่อสุขภาพกาย แต่ยังมีผลกระทบที่ส่งผลต่อจิตใจและสมองของเราด้วย นิโคตินในพอตบุหรี่ไฟฟ้ามีบทบาทสำคัญในการควบคุมสารเคมีในสมองมากมาย เมื่อคุณตัดสินใจเลิกบุหรี่ สมองต้องทำการปรับเปลี่ยนวงจรความคิด รางวัล การกระตุ้น และความวิตกกังวลใจ การลดลงของนิโคตินในระยะเวลาที่คุณเลิกบุหรี่ส่งผลต่อการควบคุมอารมณ์ ความสามารถในการรับรู้รางวัล การตอบสนองต่อการกระตุ้น และความรู้สึกวิตกกังวล อารมณ์มักทำให้เกิดความวิตกกังวล โกรธ หงุดหงิด และความรุนแรงทางอารมณ์อื่นๆ ในช่วงเริ่มต้นของการเลิกบุหรี่
หากคุณไม่สูบบุหรี่และไม่ได้รับควันบุหรี่มือสองเลย นิโคตินหมดไปจากร่างกาย ภายในระยะเวลาเพียง 72 ชั่วโมง
ในระยะเวลาเพียง 72 ชั่วโมงหลังจากที่คุณตัดสินใจไม่สูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง สมองจะเริ่มควบคุมตนเองในระดับที่มีผลกระทบทันที นิโคตินจากร่างกายจะหมดไป และระดับออกซิเจนในเลือดจะกลับมาสู่ระดับปกติ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวของร่างกายและสมองในการกลับมาควบคุมตนเองไม่ได้เกิดขึ้นทันที อาจจะใช้เวลาประมาณ 10-14 วัน ที่ความไม่สบายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการเลิกบุหรี่จะลดลงเกือบปกติหรือหมดไป
ในช่วงเริ่มต้นหลังจากเลิกบุหรี่ คุณอาจพบว่าร่างกายมีการปรับตัวที่แสนจำเจ อาทิเช่น การเริ่มมีการหายใจลึกขึ้น การนอนหลับที่ดีขึ้น และความกระตือรือร้นทางกายภาพความไม่สบายจากการละเว้นนิโคตินอาจก่อให้เกิดอาการขาดสารนิโคตินอย่างกระตุ้น กระสับกระส่าย หงุดหงิด และวิตกกังวล ซึ่งมักจะมีการเพิ่มขึ้นในช่วงระยะเริ่มต้น
การสูดหายใจเข้าออกลึกๆ ร่วมกับการออกกำลังกาย จะช่วยให้ปรับตัวได้ดี
การเลิกบุหรี่ไฟฟ้าและไม่ได้รับควันบุหรี่มือสองเป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพทั้งกายและจิตใจของคุณ ในช่วงเพียง 72 ชั่วโมงนั้น การปรับตัวของร่างกายและจิตใจมีการเริ่มต้นขึ้นอย่างชัดเจน
นิโคตินที่คุณได้รับจากพอตบุหรี่ไฟฟ้าจะเริ่มลดลงจากร่างกาย ทำให้สมองกลับมาควบคุมตนเองได้ดีขึ้น การสูดหายใจเข้า-ออกลึกๆ และการผ่อนคลายจิตใจ (mind relaxation) มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คุณปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ที่ไม่มีบุหรี่ การออกกำลังกายเป็นส่วนที่สำคัญในกระบวนการนี้ที่จะช่วยลดอาการหงุดหงิดและกระวนกระวายใจอย่างมีประสิทธิภาพ
การปรับเปลี่ยนเอาน้ำตาลในอาหารและดื่มกาแฟ จะช่วยลดการกระตุ้นทางเคมีที่เกิดจากการเลิกบุหรี่ การบริโภคผลไม้หรือน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวสามารถช่วยในกระบวนการขับสารนิโคตินออกจากกระแสเลือด ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
การเลือกพอตที่ใช้แล้วทิ้งรสแตงโมจะไม่ยากอีกต่อไป คำแนะนำและตัวเลือกที่นำเสนอในบทความนี้จะทำให้คุณพบกับพอตที่สามารถตอบสนองความต้องการและให้ประสบการณ์ที่น่าจดจำในทุกครั้งที่สูบพอตบุหรี่ไฟฟ้า
การเลิกพอตบุหรี่ไฟฟ้ามีผลกระทบทางจิตใจ
การเลิกพอตบุหรี่ไฟฟ้ามีผลกระทบทางจิตใจที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาที่ต่างๆ ของการเลิกบุหรี่ ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังจากการเลิกบุหรี่ ระดับความวิตกกังวลสูงสุดมักจะเกิดขึ้น. แต่ภายใน 2 สัปดาห์ ระดับนี้จะลดลงเกือบเท่ากับระดับก่อนที่คุณจะลงมือเลิกบุหรี่ ความหงุดหงิดจะพบสูงสุดในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังการเลิกบุหรี่ และกระสับกระส่ายจะมีระดับสูงสุดในช่วง 72 ชั่วโมงแรก อย่างไรก็ตาม ทั้งความหงุดหงิดและกระสับกระส่ายจะลดลงเกือบเท่ากับระดับก่อนที่คุณจะเริ่มเลิกบุหรี่ภายใน 2 สัปดาห์
ความโกรธง่ายจะมีระดับสูงสุดหลังจากการเลิกบุหรี่ประมาณ 48 ชั่วโมง (วันที่ 2) และภายใน 72 ชั่วโมงจะลดลงเท่ากับระยะก่อนที่คุณจะเลิกบุหรี่ สำหรับวิธีหลีกเลี่ยงอารมณ์ที่จะทำร้ายจิตใจของคนที่คุณรัก การเลือกทำกิจกรรมทางร่างกายเช่นการเดินหรือวิ่ง การทำกิจกรรมที่มีการใช้กำลังกายเช่นท่ายากลมหรือการออกกำลังกาย จะช่วยให้คุณสามารถแบ่งปันอารมณ์ของคุณได้อย่างสุขภาพ การใช้ท่าทางการหายใจและการฝึก mind relaxation ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมอารมณ์
การรักษาตนเองด้วยกิจกรรมที่สร้างความสุเช่นการทำอะไรที่คุณชอบ การไปพบเพื่อน หรือการมีกิจกรรมสันทนาการ ก็เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มพลังบวกและลดความเครียด การเลือกทำกิจกรรมที่สร้างความสุขส่วนตัวจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นหลังจากการเลิกบุหรี่ในระยะแรก
เคล็ดลับเลิกบุหรี่ไฟฟ้าง่ายๆ ที่คุณก็ทำได้
การแบ่งปันความรู้สึกและความเครียดกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนๆ มีบทบาทสำคัญในการเลิกบุหรี่ไฟฟ้า การพูดคุยและแสดงอารมณ์ช่วยให้คุณได้รับการสนับสนุนจากผู้รอบตัว และการบอกออกมาเปิดเผยความรู้สึกจะช่วยลดความโดดเด่นของความวิตกกังวลและความกดดันที่อาจเกิดขึ้น การเขียนจดหมายถึงตัวเองเป็นทางเลือกอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณสังเกตและทำความเข้าใจกับอารมณ์และความรู้สึกของตนเองได้ การจดบันทึกเหตุการณ์ ความรู้สึก และความคืบหน้าที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คุณเลิกพอตบุหรี่ไฟฟ้า มีประโยชน์ในการเป็นที่รับรู้ต่อการพัฒนาตนเอง
การทำตัวให้ไม่ว่างเป็นกลไกที่ช่วยให้คุณไม่ได้คิดถึงการสูบบุหรี่ กิจกรรมออกกำลังกาย งานอดิเรกหรือกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ส่วนตัวสามารถเป็นทางเลือกที่ดีในการกระจายความสนใจและพลิกเปลี่ยนความคิดของคุณไปที่สิ่งที่ดี ทำตัวให้มีสติปัญญาในการมองโลกแง่ดีและจำเหตุผลหรือแรงจูงใจที่ทำให้คุณตัดสินใจเลิกบุหรี่เป็นทีมีความสำคัญ การเลือกเน้นที่สิ่งดีๆ ที่กำลังเกิดขึ้นและการดูถึงผลที่ดีจากการเลิกบุหรี่ จะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจที่แข็งแรงในการพัฒนาตนเอง
ทั้งหมดนี้เป็นกลไกที่ช่วยให้คุณรักษาความตั้งใจและเป็นนายของตัวเองในการเลิกพอตบุหรี่ไฟฟ้า การมีกลไกปฏิบัติสิ่งเหล่านี้ทุกวันจะเสริมสร้างพลังและความมุ่งมั่นในการสู้ชีวิตโดยไม่ติดยาเสพติด
ข้อสรุป
ไขข้อข้องใจทำไมการเลิกบุหรี่จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก
การเลิกบุหรี่เป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากมีปัจจัยทั้งทางจิตใจและทางกายที่มีผลต่อการติดต่อบุหรี่ ปัจจัยทางจิตใจเช่นความเชื่อของบุคคลต่อบุหรี่เป็นแหล่งความสุข การใช้บุหรี่เป็นวิธีการแก้เครียด หรือการรับรู้บุหรี่เป็นส่วนหนึ่งของทัศนคติและวิถีชีวิตที่รู้จัก เป็นต้น
- ความเชื่อในการใช้บุหรี่เป็นแหล่งความสุข บางคนเชื่อว่าบุหรี่คือทางออกที่ดีในการผ่อนคลายและความสุข เมื่อคุณมีความเชื่อที่บุหรี่เป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มความสุข การเลิกบุหรี่ก็มีความยากลำบาก
- การรับรู้บุหรี่เป็นวิธีการแก้เครียด บางคนใช้บุหรี่เป็นวิธีที่สะดวกสบายในการแก้เครียดและกังวล เมื่อเลิกบุหรี่ ความเครียดอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากไม่มีช่องว่างในการหยุดและสูบ
- การติดต่อบุหรี่ทางกาย สารนิโคตินในบุหรี่ทำให้ร่างกายติดต่อและต้องการมากขึ้น เมื่อคุณพยายามเลิกบุหรี่ ร่างกายจะขาดสารนิโคตินและทำให้รู้สึกกระวนกระวาย หงุดหงิด และไม่สบาย
การเลิกบุหรี่ต้องการการจัดการทั้งด้านจิตใจและด้านกาย การที่บุคคลต้องมีความพร้อมและมีการสนับสนุนทั้งจากตัวเองและคนรอบข้างเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเลิกบุหรี่