น้ำยาซอลนิคคืออะไร

     ในปัจจุบันต้องบอกว่าการใช้พอตไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้า ก็เป็นที่นิยมมากจริงๆในตอนนี้ เพราะไม่ว่าจะช่วงอายุไหนก็รู้จักจริงๆแหละ แต่สายควันที่สนใจความแตกต่างของน้ำยาซอลนิค หรือ น้ำยาฟรีเบส มันแตกต่างกันตรงไหน อะไรยังไง แตกต่างกันแค่ชื่อหรือเปล่า

     ถ้าคุณเป็นคนใช้ Pod แบบ Close หรือ Open มาอ่านข้อแตกต่างระหว่าง 2 น้ำยานั้นอาจจะทำให้เป็นการช่วยให้เข้าใจ ในการที่สายควันทุกๆท่านจะได้เอาไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ และเป็นการช่วยเหลือท่านที่อยากจะเลิกสูบบุหรี่มวนด้วย ทำไมถึงต้องมีความรู้เกี่ยวกับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เพราะน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีมากกว่า หนึ่งรูปแบบ

     ซึ่งความแตกต่างกันนี้ส่งผลต่อวัตถุประสงค์การใช้งานและความปลอดภัยของบุหรี่ไฟฟ้าอย่างมาก หากไม่ทำการศึกษาการใช้งานน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างรอบคอบ จากการที่หันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพราะปลอดภัยกว่าบุหรี่มวนกลับกลายเป็นสร้างอันตรายต่อร่างกายอย่างร้ายแรงได้

ครบในที่เดียวที่ METAVAPETHAI

ถ้าจะถามว่า น้ำยาซอลนิคคืออะไร ก็คงต้องบอกว่าเราควรมาทำความรู้จักคำว่า “น้ำยา” ก่อนจะดีกว่า

  น้ำยา คือ สารสกัดที่เป็นน้ำ เอาไว้ใส่ในพอตไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้า ที่มีกลิ่นหลากหลาย และเมื่อนำไปใส่ในคอยล์และผ่านความร้อนของระบบภายใน ก็จะระเหยออกมาเป็นไอที่สูบเข้าไปและออกมาเป็นควัน

  น้ำยาก็ยังมีแยกเป็นประเภทอีกด้วย ได้แก่ น้ำยา Salt nic และ น้ำยา Freebase และทั้งน้ำยาสองประเภทนี้ก็มีความแตกต่างกันอีกอยู่ดี แอดจะมาแยกน้ำยาสองประเภทนี้ให้เข้าใจกันคร่าวๆดีกว่า 

     น้ำยาซอลนิค Salt Nicotine  คือหนึ่งในประเภทของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีระดับนิโคตินสูงโดยมักมีระดับของนิโคติน ระดับนิโคติน Nicotine level ตั้งแต่ 24 25 30 35 48 จนถึง 50 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ระดับความเข้มข้นของนิโคตินสูงทำให้ร่างกายดูดซึมสารนิโคตินได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ร่างกายอิ่มนิโคตินเร็ว ผู้สูบจะไม่รู้สึกอยากนิโคตินบ่อยนั่นเอง นอกจากนี้น้ำยาซอลนิคยังออกแบบมาเพื่อให้ความรู้สึกในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นไปอย่างนุ่มนวล ไม่แสบคออีกด้วย

คุณสมบัติเด่น ๆ ของน้ำยาซอลนิค

     เพราะน้ำยาซอลนิคมีปริมาณนิโคตินสูง จึงมีการผสมกรดเบนโซอิก (Benzoic acid) เพื่อลดอาการ Throat Hit หรืออาการแสบคอ กระแทกคอขณะใช้บุหรี่ไฟฟ้า ดังนั้นถึงแม้จะใช้น้ำยาซอลนิคที่มีความเข้มข้นของนิโคตินสูงก็จะไม่รู้สึกแสบคอแต่อย่างใด

ปริมาณสารนิโคตินในน้ำยาซอลนิคจะสูงกว่าน้ำยาฟรีเบส เหมาะกับผู้ที่ต้องการปริมาณนิโคตินสูง ๆ

• ร่างกายดูดซึมนิโคตินได้อย่างรวดเร็ว ร่างกายจึงอิ่มนิโคตินได้ไว
• ให้ความรู้สึกขณะสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่นุ่มนวล เบา ๆ ผ่อนคลาย
• ควันจากน้ำยาซอลนิคจะค่อนข้างน้อย ให้ภาพลักษณ์ในที่สาธารณะที่ดีกว่าการสูบควันเยอะ 
• ตัวน้ำยาซอลนิคมีอายุการเก็บรักษาที่นานกว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าฟรีเบส

นอกจากคุณสมบัติเด่นเหล่านี้แล้ว น้ำยาซอลนิคยังมีจุดด้อยอยู่บ้าง ดังนี้

• การสูบบุหรี่ไฟฟ้าด้วยน้ำยาซอลนิคจะให้กลิ่นรสที่ไม่ชัด

• น้ำยาซอลนิคมีราคาแพงกว่าน้ำยาฟรีเบสในแง่ปริมาณ

• กลิ่นของน้ำยาซอลนิคมีให้เลือกมากกว่า

     น้ำยาซอลนิคจะต้องใช้กับ บุหรี่ไฟฟ้าประเภท Pod system ที่มีกำลังไฟต่ำเท่านั้น (W วัตต์ต่ำ + Ω ความต้านทานสูง) เพราะตัวน้ำยาซอลนิคมีปริมาณสารนิโคตินเข้มข้นสูง หากใช้กับบุหรี่ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟสูงๆ จะทำให้ร่างกายได้รับนิโคตินมากและเร็วเกินไป ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกายอย่างร้ายแรงหรือทำให้หัวใจหยุดเต้นได้เลย

     เราได้เห็นข้อดีข้อด้อยของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแต่ละชนิดกันไปแล้ว คงจะมีคำถามผุดขึ้นมาว่าแล้วระหว่าง Saltnic VS Freebase ต่างกันอย่างไรแล้วแบบไหนดีกว่ากัน ในหัวข้อนี้จะมาสรุปความแตกต่างของเจ้าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า Saltnic VS Freebase ให้เห็นกันง่าย ๆ ดังนี้

     ปริมาณสารนิโคตินในน้ำยา สำหรับ น้ำยาซอลนิค สูง 24 25 30 35 48 ไปจนถึง 50 มิลลิกรัมต่อมมิลลิลิตร สำหรับ น้ำยาฟรีเบส มีนิโคตินต่ำ 0 3 6 9 และ 12 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร

• ปริมาณการสร้างควัน น้ำยาซอลนิค มีควันมากกว่าน้ำยาฟรีเบส
• ความสามารถในการดูดซึมนิโคติน น้ำยาซอลนิคสามารถดูดซึมได้เร็ว และน้ำยาฟรีเบส ดูดซึมได้ช้า
• กลิ่นและรสชาติที่ได้ สำหรับน้ำยาซอลนิค กลิ่นและรสไม่ชัดเจน แต่ น้ำยาฟรีเบสจะมีกลิ่นและรสที่ชัดเจนกว่า
•  ตัวเลือกของกลิ่นและรส น้ำยาซอบนิคมีตัวเลือกและรสชาติที่น้อยกว่า ส่วนน้ำยาฟรีเบสมีตัวเลือกและรสมาก แถมยังปรุงแต่งได้อย่างซับซ้อน
• Throat Hit (กระแทกคอ) น้ำยาซอลนิค ไม่กระแทกคอ ฟิลสูบนุ่มๆ ส่วนฟรีเบส จะกระแทกคอมากกว่า ซอลนิค หากใช้นิคโคตินที่เข้มข้นสูง
• การใช้งานกับุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาซอลนิคจะใช้กับพอตบุหรี่ไฟฟ้าต่ำ และสำหรับน้ำยาฟรีเบสต้องใช้กับพอตบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังไฟสูง
• ราคาของน้ำยาซอลนิคจะแพงกว่าน้ำยาฟรีเบส

     จากการเปรียบเทียบความแตกต่างของประเภทน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอย่าง Saltnic VS Freebase จะเห็นได้ว่าน้ำยาทั้งสองประเภทแตกต่างกันอยู่มาก แต่หากจะถามว่าแล้วน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า Saltnic VS Freebase แบบไหนดีกว่ากัน ตรงนี้ตอบได้เพียงว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทั้งสองแบบนั้นไม่ได้มีตัวไหนดีกว่ากัน ต้องขึ้นกับผู้ใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าแล้วว่ามีความชอบแบบไหน

     สำหรับสายควันที่ชอบน้ำยาซอลนิค วันนี้แอดก็จะมีทริคเล็กๆน้อยๆ ในการเลือกพอตไฟฟ้าที่เหมาะกับ น้ำยาที่คุณชื่นชอบจะได้มีฟิลในการสูบที่ดีมากยิ่งขึ้น และเป็นการรักษาพอตไฟฟ้า หรือ บุหรี่ไฟฟ้าของคุณให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

     น้ำยาซอลนิคเหมาะกับเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟต่ำ เพราะตัวน้ำยาความเข้มข้นของนิโคตินสูงอยู่แล้ว จึงไม่ต้องใช้ไฟที่สูงมากนัก และ ให้หลีกเลี่ยงการใช้งานกับอุปกรณ์ที่มีกำลังไฟแรงสูงกับน้ำยาซอลนิคนิมีปริมาณนิโคตินมากกว่า 40 MG ขึ้นไป เพราะนั่นอาจจะทำให้ผู้ใช้ได้รับนิโคตินที่มากเกินไป ตามที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นนิโคตินแบบเกลือได้รับการออกแบบเพื่อใช้ในอุปกรณ์ที่มีกำลังไฟต่ำ เพราะนิโคตินเกลือมีความเข้มข้นสูง และ ดูดซับเข้าร่างกายได้ดีอยู่แล้ว เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟต่ำส่วนใหญ่จะมีรูปร่างที่เล็ก บาง ดูโฉบเฉี่ยว ที่สำคัญส่วนใหญ่ยังมีระบบสูบอัติโนมัติ ซึ่งหมายความว่าสูบได้เลย โดยที่ไม่ต้องกดปุ่มใดๆ

     น้ำยาซอลนิคมีนิโคตินที่เข้มข้นมาก ทำให้ผู้ใช้งานสูบไม่กี่คำก็รู้สึกว่าได้รับนิโคตินที่เพียงพอแล้ว แถมน้ำยาซอลนิคยังให้ฟิลสูบที่นุ่ม ละมุน ไม่แทงคอ จุดนี้ช่วยให้เราไม่ต้องยกบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาสูบบ่อยๆอีกด้วย แถมยังช่วยให้ประหยัดน้ำยาจากการสูบน้อยครั้งและพอตไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟเพียงไม่กี่วัตต์

ข้อดีของน้ำยาซอลนิค

• อุปกรณ์ใช้งานง่าย – ตัวเครื่องที่กำลังไฟต่ำจะใช้งานง่ายและไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญมันมีขนาดเล็ก พกพาง่าย ใส่กระเป๋าสบาย
• ระดับนิโคตินที่สูง – เนื่องจากระดับนิโคตินที่สูงและซึมซับเข้าสู่ร่างกายได้ไวทำให้คุณเลิกบุหรี่และไม่อยากสูบมันได้อย่างง่ายดาย
• ให้ฟิลลิ่งในการสูบที่นุ่ม – โดยปกติถ้าใช้นิโคตินสูงจะทำให้รู้สึกแสบคอและกระแทก แต่นั่นไม่เกิดขึ้นกับน้ำยาซอลนิค
• ใช้น้ำยาน้อยลง – เนื่องจากระดับนิโคตินสูงและการดูดซึมที่ดีขึ้น ผู้ใช้จึงไม่เป็นต้องใช้น้ำยาปริมาณมาก อีกทั้งควันยังน้อยไม่รบกวนคนรอบข้าง
• อายุการเก็บรักษานานขึ้น – เนื่องจากนิโคตินแบบเกลืออยู่ในสภาพตามธรรมชาติ จึงมีสเถียรภาพมากกว่า และมีโอกาสเกิดปฏิกิริยาออกซิไดซ์น้อยลง