ตามความเข้าใจของสายสูบบางคนอาจจะมีความอยากเลิกสูบบุหรี่เพราะเหตุผลที่สารในบุหรี่มวนนั้นอันตรายต่อทั้งตัวผู้สูบและคนรอบข้าง บางรายอาจจะหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเป็นตัวเลือก อีกทางในการเลิกสูบบุหรี่ แต่หลายท่านก็อาจจะยังขาดความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องของสารนิโคตินที่อยู่ในส่วนผสมของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และ บุหรี่มวน
วันนี้จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกับ อาการของผู้ใช้เมื่อเลิกใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และ ความอันตรายของสารนิโคตินที่แฝงอยู่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อเป็นการมีความเข้าใจในการใช้ และ มีความระมัดระวังในการใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้น
ทำความรู้จักกับ สารนิโคติน
สิ่งที่เราควรคำนึงคือเมื่อใดก็ตามที่เรานำสิ่งของที่แปลกปลอมเข้าร่างกายแล้ว เราควรที่จะศึกษาและรู้จักมันให้ดีก่อนที่จะนำเข้า เพราะเราไม่รู้ผลลัพธ์จะเกิดขึ้นอย่างไร หรือ จะส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร
สารนิโคตินที่หลายๆคนเข้าใจไม่ได้มีในแค่บุหรี่มวนเท่านั้น แม้แต่น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเองก็มีสารชนิดนี้อยู่ด้วยเหมือนกัน แล้วถ้าอย่างงั้นบุหรี่มวนก็ไม่แตกต่างกับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าหน่ะสิ แต่แอดจะบอกว่ามันแตกต่างกัน น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีเพียงแค่สารชนิดนี้เท่านั้น
บุหรี่มวนเมื่อเกิดการเผาไหม้แล้วนั้นมีสารประกอบต่างๆมากถึง 4,000 ชนิด และเป็นสารก่อมะเร็งมากถึง 42 ชนิด แต่น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อเกิดการเผาไหม้จากการสูบแล้วนั้นมีเพียงสารนิโคตินและสารโพรไพลีนไกลคอล และถ้าถามว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายมากกว่าบุหรี่มั้ย แอดก็ยังให้คำตอบที่ยืนยันแน่นอนไม่ได้เพราะไม่มีข้อมูลวิจัยที่มากพอที่จะยืนยันถึงอันตรายของสารเคมีแต่ละตัวในบุหรี่ไฟฟ้า กรณีใช้ไปนานๆ ยังไม่มีข้อมูลว่าอันตรายมากน้อยแค่ไหน
Tips : สูบบุหรี่ 1 มวน ทำให้ชีวิตสั้นลงไป 7 นาที
ปัญหาทางสุขภาพที่อาจกระทบต่อผู้สูบ
การดูดซึมของนิโคตินนั้นผ่านทางผิวหนังและเยื่อเมือกที่บุผิวเช่นที่ในปากและในจมูกหรือการสูดดมทางปอดจะเข้าสู่กระแสเลือดไปยังปอดและออกฤทธิ์ต่อสมองและระบบประสาทโดยจะส่งผลเร็วขึ้นเมื่อผ่านการสูบหรือการหายใจรับเอาควันบุหรี่เข้าไปจะมีผลต่อสมองภายในเวลาประมาณ 10 วินาที ซึ่งเร็วกว่าผู้ที่สูบซิการ์ ไปป์ หรือบุหรี่ไร้ควัน เพราะมักไม่ได้สูดควันเข้าไปในร่างกายด้วย ทำให้เกิดการหลั่งสารเอพิเนฟรีนและสารโดปามีน(dopamine) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจ หรือมีความสุข ทำให้เกิดความผ่อนคลาย หรือง่วงนอนได้ด้วย ทั้งนี้ การออกฤทธิ์ของนิโคตินขึ้นอยู่กับระดับความตื่นตัวของระบบประสาทกับปริมาณนิโคตินที่ถูกเสพเข้าไปด้วยซึ่งส่งผลให้สี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพเช่น
- ภาวะความดันโลหิตสูง
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- โรคถุงลมโป่งพอง
- ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือภาวะมีบุตรยาก
- มีปัญหาช่องปาก มีกลิ่นปาก หรือเป็นโรคเหงือกและฟัน
ข้อดีของนิโคตินที่หลายคนอาจยังไม่รู้ กับประโยชน์ทางการแพทย์
สารนิโคตินนั้นได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์มากกว่า 500 ปีมาแล้ว และนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์อย่างกว้างขวาง ทั้งโรคหอบหืดในอินเดีย การปวดฟันและเหงือกในอเมริกากลาง รวมถึงในยุโรปที่ถูกยกย่องว่าเป็นวิธีการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ทรงพลัง จนเมื่อศตวรรษที่ 20 ที่ผู้คนเริ่มมองนิโคตินในแง่ลบ เนื่องจากความเกี่ยวข้องของนิโคตินกับยาสูบ และการสูบบุหรี่ จนสุดท้ายแล้วก็ถูกมองว่าเป็นสารอันตรายมาจนปัจจุบันนี้
รู้ก่อนใช้บุหรี่ไฟฟ้า
บุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันยังไม่มีมาตรฐานการผลิตที่เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน จึงทำให้ยากที่จะตอบได้ว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง โดยทั่วไปมีลักษณะคล้ายบุหรี่ปกติทั่วไป หรืออาจดัดแปลงให้มีลักษณะต่างออกไป ซึ่งส่วนประกอบหลักของบุหรี่ไฟฟ้าแบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ แบตเตอรี่ (Battery) ตัวที่ทำให้เกิดไอและความร้อน (Atomizer) และหัวเก็บน้ำยา (Cartridge)
บุหรี่ไฟฟ้าจะทำงานได้ไม่เต็มรูปแบบถ้าขาดน้ำยาสำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ( Open System ) ซึ่งบรรจุอยู่ในหัวเก็บน้ำยาเพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการทำความร้อนก่อนกลายเป็นไอที่ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าสูบเข้าไปในปอด ส่วนผสมที่พบมากในน้ำยา E-Liquid หรือ E-Juice มีดังนี้
- นิโคติน (Nicotine) เป็นสารสกัดจากใบยาสูบและเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งที่พบได้ในทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ปกติทั่วไป นิโคตินจะทำให้ร่างกายเสพติดการใช้บุหรี่ และจะเข้าไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เพิ่มความดันโลหิต เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดและโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจได้ ระดับนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะคือ เปอร์เซ็นต์ มิลลิกรัม และระดับความเข้มข้น ได้แก่ ระดับสูง ระดับกลาง และระดับต่ำ
- โพรไพลีนไกลคอล (Propylene Glycol) เป็นสารสังเคราะห์ชนิดหนึ่งที่องค์การอาหารและยา (FDA) ยืนยันถึงความปลอดภัยว่าใช้ได้ทั้งในอาหาร ยา และเครื่องสำอาง รวมถึงนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในการสร้างไอหรือหมอกสำหรับเวทีการแสดงต่าง ๆ แต่เมื่อสัมผัสหรือสูดดมเข้าไปอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ดวงตาและปอดได้ โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง โรคหอบหืด และโรคถุงลมโป่งพอง
- กลีเซอรีน (Glycerine) เป็นสารที่ไม่มีสีและไม่มีกลิ่น แต่มีรสชาติหวานเล็กน้อย องค์การอาหารและยา (FDA) ยืนยันถึงความปลอดภัยว่าใช้ได้ทั้งในอาหารและยา แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเมื่อเปลี่ยนรูปแบบเป็นไอที่สูบหรือสูดแล้วเกิดผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย เช่นเดียวกันกับโพรไพลีนไกลคอล
- สารแต่งกลิ่นและรส (Flavoring) เป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารทั่วไป มีความปลอดภัยเมื่อรับประทานเข้าสู่ร่างกาย แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเมื่อเปลี่ยนรูปแบบเป็นไอที่สูบหรือสูดแล้วเกิดผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย ตัวอย่างเช่น สารไดอะซิติล (Diacetyl) ที่พบมากในเนยสำหรับทำป็อปคอร์น อาจเป็นสาเหตุของปัญหาระบบทางเดินหายใจและปอด
ประเภทของบุหรี่ไฟฟ้า
บุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ แต่แบ่งได้ 3 รูปแบบคือ แบบที่ 1 (Open System) แบบที่ 2 (Close System) และแบบที่ 3 (Disposable) โดยมีรายละเอียดดังนี้
- บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 1 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Open System คือ บุหรี่ไฟฟ้าpod system ระบบเปิดที่ผู้ใช้สามารถเลือกเติมเองได้ โดยจะเลือกน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นอะไร ยี่ห้อไหนก็ได้ มีความคล้ายกันกับการเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแบบ sub ohm ที่จะมีอะตอมแล้วเราสามารถเลือกเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากลิ่นไหนก็ได้ตามใจชอบ
- บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 2 หรือที่รู้จักกันในชื่อ close system คือ บุหรี่ไฟฟ้าpod system ระบบปิด โดยภายในของหัวพอตบุหรี่ไฟฟ้านั้นจะมีการบรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามาพร้อมเพื่อพร้อมสำหรับการใช้งานเรียบร้อยแล้ว และไม่สามารถเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้ มีข้อดีคือใช้งานง่ายไม่ต้องคอยเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หมดก็ทิ้ง
- บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 3 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Disposable คือ บุหรี่ไฟฟ้าประเภทหนึ่งที่ใช้เสร็จแล้วก็ทิ้งเลย โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องเติมน้ำยา เปลี่ยนคอยล์ หรือชาร์จแบต จึงทำให้ง่ายและสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตจริง พอตใช้แล้วทิ้งยังเหมาะกับมือใหม่เพราะผู้ใช้ไม่ต้องมีความรู้หรือประสบการณ์ก็เริ่มต้นใช้งานได้เลย ตัวเครื่องและอุปกรณ์ทุกส่วนของพอตใช้แล้วทิ้งไม่ต้องการดูแลรักษา เพียงแค่ใช้งานสูบอย่างเดียว
ข้อดีของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า
บุหรี่ไฟฟ้ามีข้อดีที่แตกต่างจากการใช้บุหรี่ปกติทั่วไป เช่น บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีควันจากการเผาไหม้เหมือนในบุหรี่ปกติทั่วไป ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันดินหรือทาร์ (Tar) และคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) หรือสารพิษอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมองแตก และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ ยังตรวจพบสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในระดับที่ต่ำกว่าบุหรี่ปกติทั่วไปอีกด้วย
กระทรวงสาธารณสุข ประเทศอังกฤษได้เปิดเผยหลักฐานเกี่ยวกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าว่ามีความปลอดภัยมากกว่าการใช้บุหรี่ปกติทั่วไปสูงถึง 95% และมีประสิทธิภาพในการช่วยให้เลิกพฤติกรรมการสูบบุหรี่ได้ สาเหตุสำคัญคือในบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีส่วนประกอบของใบยาสูบ มีเพียงนิโคตินที่เป็นสารเสพติดแต่ให้โทษน้อยกว่าใบยาสูบ ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่เสพติดนิโคติน
องค์การอาหารและยาพบร่องรอยของสารพิษ 0.1% ในน้ำยา E-Liquid หรือ E-Juice เช่น สารไนโตรซามีน (Nitrosamines) และสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) ที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง และก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย เช่น ปากแห้ง ระคายเคืองในลำคอ ไอแห้ง เป็นต้น
แต่ยังไม่มีหลักฐานทางการวิจัยที่สรุปอย่างชัดเจนว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ได้จริง และในหลายประเทศการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าถือว่าผิดกฎหมาย รวมถึงประเทศไทยด้วย
บุหรี่ไฟฟ้าสามารถเลิกบุหรี่ได้จริงไหม
มีหลายงานวิจัยที่ได้เริ่มต้นเรื่องการเลิกบุหรี่ ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งหลายแห่งอ้างว่าออกแบบมาเพื่อช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น มีอันตรายน้อยกว่า และจริงอยู่ที่ว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีกลไกการทำงานที่ไม่มีกระบวนการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ธรรมดา ทำให้ผู้สูบลดความเสี่ยงที่จะได้รับสารที่เป็นอันตรายจากการเผาไหม้บางตัว เช่น น้ำมันดินหรือทาร์ (Tar) และคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งและโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
ถึงแม้อันตรายจะลดลง แต่อาการเสพติดสารนิโคตินยังคงมีอยู่ รวมถึงร่างกายยังได้รับอันตรายอยู่ดี และจากผลวิจัยพบว่า มีคนเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่จะเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่ ธรรมดามาสูบบุหรี่ไฟฟ้า 100% นอกจากนี้ ยังมีผลวิจัยชี้ชัดว่า ผู้สูบบุหรี่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้บุหรี่ไฟฟ้า เพราะการใช้บุหรี่ไฟฟ้าไม่สามารถช่วยให้เอาชนะการเสพติดนิโคตินได้อย่างแท้จริง ส่วนใหญ่กว่าครึ่งยังจะคงสูบบุหรี่ธรรมดาต่อไป
ซึ่งทางแพทย์แนะนำว่า ให้ใช้หมากฝรั่งนิโคตินที่เป็นยาช่วยเลิกบุหรี่จะดีกว่า เพราะถึงแม้จะมีสารนิโคตินเช่นเดียวกัน แต่ถูกทำให้มีนิโคตินในระดับที่ต่ำและไม่มีการเติมสารปรุงรสต่าง ๆ ซึ่งเตือนร่างกายให้รับรู้ถึงอันตรายจากสารนิโคตินได้ดีกว่า หรือจะปรึกษากับแพทย์ตามโรงยาบาลต่าง ๆ เพื่อหาทานเลิกบุหรี่อย่างจริงจังจะดีกว่าการพยายามใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกสูบบุหรี่
สรุปแล้ว บุหรี่ไฟฟ้าไม่สามารถช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ และอาจทำให้ผู้สูบหันมาติดบุหรี่ไฟฟ้าแทน ซึ่งทางการแพทย์จะไม่แนะนำให้ทำ
แล้วเราจะเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างไร
การเลิกบุหรี่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเราตั้งใจจะทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถ อย่าคิดว่าติดบุหรี่แล้วจะเลิกไม่ได้หากยังไม่ได้เริ่มต้น! แรงใจ เป้าหมาย ความตั้งใจในการเลิกบุหรี่แล้ว คุณสามารถเลิกบุหรี่ให้หายขาดได้ ดังนี้
- ทิ้งอุปกรณ์ในการสูบบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็น ไฟแช็ก ที่เขี่ยบุหรี่ ฯลฯ ควรทิ้งไปให้หมด พยายามทำให้การสูบบุหรี่เป็นเรื่องยากเข้าไว้ จะได้ไม่เผลอหยิบขึ้นมาสูบนั่นเอง
- หมั่นทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ดื่มนมสด ช่วยลดปริมาณการสูบบุหรี่ลงได้ เพราะการดื่มนมสดจะช่วยให้รสชาติของบุหรี่แย่ลงได้, อาหารที่มีผักใบเขียว เนื่องจากผักมีฤทธิ์ที่ทำให้ไม่อยากสูบบุหรี่ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกายด้วย, ไข่ อกไก่ ถั่ว อาหารเหล่านี้จะสร้างสารซีโรโทนิน (Serotonin) ที่จะช่วยให้การเลิกบุหรี่ง่ายขึ้น
- ใช้มะนาวเป็นตัวช่วยโดยการนำมะนาวทั้งเปลือก หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พกติดตัวไว้ เมื่อมีความรู้สึกอยากสูบบุหรี่ให้หยิบมะนาวขึ้นมาอมโดยอมช้า ๆ และเคี้ยวเปลือกมะนาวและกลืน เพราะจากผลการวิจัยพบว่าในมะนาวมีวิตามินซีที่มีสารช่วยลดความอยากนิโคตินได้ และในผู้ที่เลิกบุหรี่ด้วยมะนาวส่วนใหญ่พบว่าเลิกบุหรี่ได้ภายใน 2 สัปดาห์ และจะทำให้ไม่มีความอยากสูบบุหรี่อีก
- ดื่มน้ำให้มาก อย่างน้อย 10 แก้ว (ประมาณ 2 ลิตร) โดยเฉพาะช่วง 2-3 อาทิตย์แรกที่กำลังเลิกบุหรี่ นอกจากจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ยังช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย บรรเทาความหงุดหงิดลงได้
- เคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อไม่ให้ปากว่าง หรือบางคนอาจขอคำแนะนำกับแพทย์ในการใช้หมากฝรั่งนิโคติน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการช่วยลดเลิกบุหรี่
- หากิจกรรมทำเพื่อดึงความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ออกกำลังกาย, เล่นเกม, ดูหนัง หรือหางานอดิเรกอื่นๆ ทำ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้ไปหยิบบุหรี่มาสูบ
- ไม่ควรอยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่ บริเวณที่มีการสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้เกิดความอยากสูบบุหรี่ขึ้นมาอีกได้
- ปัจจุบันมียาช่วยให้เลิกบุหรี่อยู่หลายชนิด ซึ่งสามารถช่วยลดอาการติดบุหรี่ได้ แต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์
จะเห็นได้ว่า การจะเลิกบุหรี่ให้ได้ผล ต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หากไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว การปรึกษาแพทย์ตามโรงพยาบาลก็สามารถช่วยคุณได้
ข้อสรุป
อาการของผู้ใช้เมื่อเลิกใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หรือ การเลิกใช้ของบุหรี่จริงก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะอันก็ยากทั้งนั้นในการที่จะผ่านมา แต่การดูแลสุขภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน แต่การที่เรามีความรู้ความเข้าใจในสารอันตรายที่จะเข้ามาสู่ร่างกายก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นเดียวกัน การสูบแบบไม่หาข้อมูลไม่ใช่ว่าผิด แต่แอดว่าการเรียนรู้แล้วสูบนั้นเท่มากกว่า การสูบไม่ว่าจะเป็นพอตหรือบุหรี่มวนก็เป็นควรจะควบคู่ไปกับการเรียนรู้ แต่ถ้าท่านใดยังไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ แอดก็จะขอแนะนำเว็บไซต์ขายน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า พอตไฟฟ้า อุปกรณ์ครบวงจร ไม่ว่าจะชอบแบบไหนก็อย่าลืมมาเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากับ Metavapethai เพราะเรามีสินค้าคุณภาพดีให้เลือกหลากหลาย ราคาดี สินค้ามีคุณภาพและรับประกันสินค้าแท้แน่นอน จัดส่งเร็ว และมีแอดมินคอยช่วยตอบคำถาม ถ้าสายควันท่านใดสนใจสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ของเราได้เลย